ลูกค้าถามถึงมาก ไม่รู้ว่า Supplier นอกอียูอย่างเรา ต้องทำอะไรบ้าง?
SCIP (อ่านว่า "สคิป") ย่อมาจาก Substances of Concern In articles as such or in complex objects (Products) เป็นฐานข้อมูลใหม่ที่ ECHA เพิ่งพัฒนาขึ้น ตามข้อบัญญัติที่เพิ่มเติมขึ้นใหม่ในกฎหมาย Waste Framework Directive (WFD) ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมปี 2018 [DIRECTIVE (EU) 2018/851] เพื่อช่วยให้ผู้เกี่ยวข้องสามารถติดตาม/ตรวจสอบผลิตภัณฑ์/ชิ้นส่วน/วัสดุที่มี SVHC ในตัวได้ตลอดวัฐจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ข้อมูลเหล่านี้นอกจากจะทำให้ผู้บริโภค มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าที่ "ปลอดสารอันตราย" มากขึ้นแล้ว ยังจะทำให้ ผู้จัดการซากสินค้า (waste management operators) มีข้อมูลประกอบการบ่งชี้และแยกแยะชิ้นส่วน/วัสดุที่มีสารอันตรายในตัว ซึ่งจะช่วยลดโอกาสเกิดการปนเปื้อนสารอันตรายและเพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัยของวัสดุรีไซเคิลมากขึ้น ในการนี้ระเบียบ WFD ใช้ประโยชน์จากข้อกำหนดภายใต้ REACH (มาตรา 33)
REACH มาตรา 33 กำหนดให้ผู้ผลิต/ผู้นำเข้าสินค้าต้องสื่อสารข้อมูล SVHC-C ในชิ้นส่วน (Article) ต่อเป็นทอดๆ ใน Supply Chain หาก Article นั้นๆ มี SVHC-C ในตัวเกิน 0.1% โดยน้ำหนัก
REACH มาตรา 7(2) กำหนดให้ผู้ผลิต/ผู้นำเข้าสินค้าในสหภาพยุโรป ต้องแจ้ง (Notify) ข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ หาก Article นั้นๆ มี SVHC-C ในตัวเกิน 0.1% โดยน้ำหนัก และ ผู้ผลิต/ผู้นำเข้ารายนั้น ผลิต/นำเข้าสินค้าที่มี SVHC-C รายการเดียวกัน รวมกัน (ในทุกสินค้าที่มี SVHC-C รายการเดียวกัน) เกินขีดจำกัด 1 ตัน/ปี
ต้องทำอะไรบ้าง?
ระบบฐานข้อมูล SCIP มีวัตถุประสงค์เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อติดตาม ชิ้นส่วน/สินค้า ที่มี SVHC-C ในตัวไปตลอดวัฐจักรชีวิตของชิ้นส่วน/สินค้านั้นๆ ตั้งแต่เริ่มนำชิ้นส่วนเข้ามาในระบบ (มีการค้าขาย/ส่งผ่านสินค้าใน Supply chain ในสหภาพยุโรป) ประกอบเป็นสินค้าสำเร็จรูป ถูกนำไปใช้งานจนกระทั่งถูกนำมาทิ้ง ซึ่งบางส่วนอาจถูกนำออกไปใช้ซ้ำ ไปจนกว่าชิ้นส่วน/วัสดุนั้นๆ จะถูกแปรสภาพ (หมดสถานะการเป็น Article) กลายเป็นวัสดุใหม่ และ/หรือ ถูกนำไปทำลายอย่างถูกหลักวิชาการ
WFD มาตรา 9(i) กำหนดให้ผู้จัดหาผลิตภัณฑ์ (supplier of an article - ตามมาตรา 3(33) ของ REACH) ต้องแจ้งข้อมูล SVHC-C ตามที่ระบุตามมาตรา 33 ของ REACH ต่อ ECHA ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2021 เป็นต้นไป
สำหรับชิ้นส่วน (Article as such) ที่เข้าข่ายต้องสื่อสารข้อมูล SVHC-C ใน Supply Chain ตามมาตรา 33 ของ REACH ผู้ผลิต/ผู้นำเข้า (ในสหภาพยุโรป) มีหน้าที่กรอกข้อมูลที่จำเป็นที่กฏหมายบังคับโดยใช้ซอฟท์แวร์ชื่อว่า IUCLID (ที่ ECHA พัฒนาขึ้นให้ใช้ได้ฟรี) และ Submit ข้อมูลสำหรับชิ้นส่วนนั้นๆ เข้าในฐานข้อมูล SCIP (เฉพาะชิ้นส่วนที่มี SVHC-C เกิน Trigger limit 0.1% โดยน้ำหนัก)
- เมื่อ Submit ข้อมูลได้เรียบร้อยแล้ว ผู้จัดหาชิ้นส่วนนั้นจะได้รับหมายเลข "SCIP Number" สำหรับส่งต่อไปให้กับลูกค้าใน Supply chain ต่อไป
- เมื่อลูกค้าในโซ่การผลิตนำชิ้นส่วนไปประกอบเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ความซับซ้อนสูงขึ้น (Complex article) ลูกค้าจะกลายเป็นผู้จัดหาชิ้นส่วนรายถัดไป ที่จะต้อง "สร้าง" ผลิตภัณฑ์ใหม่ใน IUCLID โดยใช้ SCIP Number ที่ได้รับมาทั้งหมดและ Submit เป็นข้อมูลสำหรับ Complex article ที่ตนผลิตเข้าฐานข้อมูล SCIP ซึ่งก็จะได้รับ SCIP Number ใหม่สำหรับ Complex article นั้นๆ เพื่อส่งต่อไปยังลูกค้าของลูกค้า ในลำดับต่อๆ ไป จนกว่าสินค้าจะกลายเป็นสินค้าสำเร็จรูป ส่งไปถึง ผู้กระจายสินค้า (Distributor) และผู้จำหน่ายสินค้า (Retailer) ซึ่งเป็นเพียงผู้จัดเก็บสินค้าและขายสินค้า จึงไม่ต้อง Submit ข้อมูล SCIP
Note: IUCLID ที่ ECHA เผยแพร่ มี 3 แบบได้แก่
![]() |
|
ข้อมูลสำหรับ SCIP
ฐานข้อมูล SCIP มุ่งหวังเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการวัสดุ โดยการหมุนเวียนวัสดุกลับมาใช้ใหม่ โดยยังคงรักษาความปลอดภัย ซึ่งจะนำไปสู่การลดการก่อขยะ และเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ในที่สุด ข้อมูลที่จำเป็นต้องเก็บจึงมีมากกว่ารายการสาร SVHC-C ที่มีในชิ้นส่วนตามที่ REACH กำหนด ข้อมูลสำคัญที่ต้องใช้ สำหรับป้อนข้อมูล SCIP สรุปได้ดังนี้
- Identifiers and categorisation: ข้อมูลเพื่อการบ่งชี้ชิ้นส่วน (ที่มี SVHC-C) ได้แก่ ชื่อชิ้นส่วน, หมายเลข ID, ประเภทชิ้นส่วน (Article category ซึ่งเป็นข้อมูลระบุวัตถุประสงค์/ฟังก์ชั่นของชิ้นส่วน - ซึ่งใช้ CN/TARIC Code (รหัสพิกัดภาษีของ EU) ในการกรอก), และข้อมูลระบุว่าชิ้นส่วนนี้ผลิตใน EU หรือไม่
- Characteristics and picture(s): ข้อมูลเพื่อบอกลักษณะทางกายภาพของชิ้นส่วน (เช่น ขนาด น้ำหนัก สี ความหนาแน่น)
- Safe use instructions: ให้ข้อมูลวิธีการใช้งาน (รวมถึงการถอดประกอบ) อย่างปลอดภัย
- Concern elements (กรอกเฉพาะ "Article as such" - ชิ้นส่วนลำดับแรกที่มี SVHC-C ในตัวก่อนนำไปประกอบเป็น Complex articles)
- Candidate List Substance: บ่งชี้รายการ SVHC-C ที่มีเกิน 0.1% w/w
- Concentration range: ระบุช่วงความเข้มข้นโดยเลือก จาก List ที่มีให้ดังนี้
- > 0.1% w/w and < 0.3% w/w;
- > 0.1% w/w and < 0.3% w/w;
- ≥ 0.3% w/w and < 1.0% w/w;
- ≥ 1.0% w/w and < 10.0% w/w;
- ≥ 10.0% w/w and < 20.0% w/w;
- ≥ 20.0% w/w and < 100% w/w;
- > 0.1% w/w and ≤ 100% w/w42
- Material or mixture category: เลือกกลุ่มวัสดุ หรือ กลุ่มของผสม อย่างใดอย่างหนึ่ง
- Material category: ข้อมูลเพื่อให้ (Waste operators) สามารถบ่งชี้ชิ้นส่วนได้โดยง่าย โดยเลือกตามประเภทวัสดุที่กำหนดไว้ให้ (SCIP มีวัสดุให้เลือก 11 ประเภท (ข้อมูลระดับที่ 1 เช่นประเภทโลหะ) วัสดุแต่ละประเภทมีการจัดแบ่งเป็นกลุ่ม (ข้อมูลระดับที่ 2 เช่น โลหะกลุ่มเหล็ก) แต่ละกลุ่มมีการจัดแบ่งเป็นชนิดวัสดุ (ข้อมูลระดับที่ 3 เช่น Carbon steel) ในการกรอกข้อมูล Material Category ต้องให้ข้อมูลอย่างน้อยถึงระดับที่ 2)
-
- วัสดุที่ SCIP มีให้เลือก 11 ประเภท ได้แก่ 1) เซรามิก, 2) แก้ว, 3) หนัง (Leather & Raw hides), 4) โลหะ, 5) กระดาษและกระดาษแข็ง, 6) พลาสติก (และโพลิเมอร์), 7) ยางและ Elastomer, 8) หิน พลาสเตอร์ และซีเมนต์, 9) สิ่งทอและเส้นใย, 10) ไม้และคอร์ก และ 11) อื่นๆ
-
- Mixture category: ใช้สำหรับให้ข้อมูลกรณีใช้ MIxture ที่มี SVHC-C รายการนั้นๆ ในการผลิต Articles แม้ในสภาพปกติ Mixture นี้ได้ถูกแปรสภาพไปแล้ว (Cure แล้วเช่น ในกาว หรือในสี) รวมทั้งกรณี SVHC-C ที่อยู่ในรูป Mixture ในผลิตภัณฑ์ (เช่น ของเหลวในเทอร์โมนิเตอร์)
- AdditionalAdditionalmaterial characteristic(s)*
- Material category: ข้อมูลเพื่อให้ (Waste operators) สามารถบ่งชี้ชิ้นส่วนได้โดยง่าย โดยเลือกตามประเภทวัสดุที่กำหนดไว้ให้ (SCIP มีวัสดุให้เลือก 11 ประเภท (ข้อมูลระดับที่ 1 เช่นประเภทโลหะ) วัสดุแต่ละประเภทมีการจัดแบ่งเป็นกลุ่ม (ข้อมูลระดับที่ 2 เช่น โลหะกลุ่มเหล็ก) แต่ละกลุ่มมีการจัดแบ่งเป็นชนิดวัสดุ (ข้อมูลระดับที่ 3 เช่น Carbon steel) ในการกรอกข้อมูล Material Category ต้องให้ข้อมูลอย่างน้อยถึงระดับที่ 2)
แม้ข้อกำหนดการให้ข้อมูล ตาม มาตรา 33 ของ REACH และมาตรา 9(i) ของ WFD จะครอบคลุมเฉพาะ SVHC-C ใน Articles (ไม่ครอบคลุม SVHC-C ในของผสม) แต่ SCIP กำหนดให้รายงาน SVHC-C ใน "Mixture Category" ในกรณีมีการใช้ Mixture นั้น (ก่อน Cure) ในการผลิต Article เช่น ในสี/สารชุบ/เคลือบผิว ในกาว (ก่อน Cure) หรือในวัสดุบัดกรี (Solder) ฯลฯ
Update:
หลังจาก Submit ข้อมูลไปแล้ว หากมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต เช่น มีการเพิ่ม SVHC-C รายการใหม่เข้าใน List หรือผู้ผลิตเปลี่ยนไปใช้สารอื่นทดแทน ทำให้ไม่มี SVHC-C ในผลิตภัณฑ์ ก็สามารถปรับปรุงฐานข้อมูลได้ตลอดเวลา
ใครมีหน้าที่ผู้กรอกข้อมูล?
การ Submit ข้อมูลในฐานข้อมูล SCIP เป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการในสหภาพยุโรป Supply-chain ที่เป็นผู้ประกอบการนอก EU ไม่สามารถ Submit ข้อมูลในฐานข้อมูล SCIP ได้ (ไม่สามารถมี SCIP Number เป็นของตนเองได้) อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการนอก EU จำเป็นต้องให้การสนับสนุนด้านข้อมูลแก่ลูกค้า เพื่อให้สามารถ Submit ข้อมูลในฐานข้อมูล SCIP ตามที่กฎหมายกำหนดได้
หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ไหน?
- ข้อมูลบนหน้าเว็บไซด์ ECHA
- ข้อมูลบนหน้า SCIP Support
- SCIP Infographic
- Webinar "Get ready to submit your SCIP notification" โดย ECHA (วันที่ 19 พ.ย. 2020)
- เอกสาร "Requirement for SCIP notification" October 2020 โดย ECHA (pdf, 1.5MB)
- เอกสาร "Categories of materials in SCIP" October 2020 โดย ECHA (pdf, 891kB)